พาไปเที่ยว Fira & Santorini ที่รัก ชั้นจะพักที่นี่


   (รูปจากเพจ Expat wifey journey เจ้าของบทความ)

  เพื่อน ๆ เคยมีสถานที่ท่องเที่ยวในความฝันกันมั้ยคะ ? ที่เป็น bucket list ที่จะต้องตามไปให้ได้ ถ้าเพื่อน ๆ มี หนึ่งในที่นั้นจะเหมือนสถานที่ ที่ลาล่าจะพาไปวันนี้กันมั้ยเอ่ย ? 

   สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ทุกคน พบกับลาล่าอีกแล้วนะคะ วันนี้ลาล่ายังวนเวียนอยู่กับเรื่องเที่ยว เพราะตั้งแต่เจ้า COVID - 19 เล่นงานก็ทำเอาพวกเราไปไหนกันไม่ได้เลย วันนี้ลาล่าจะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวเมืองในฝันของลาล่าเลยค่ะ ลาล่ามีโอกาสรู้จักกับเมืองนี้ย้อนเวลาไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว หลังจากเพื่อนสนิทชาวออสซี่ได้ถูกคนรักของเค้าขอแต่งงานที่นั่น โอ้ยยย ! โรแมนติกมากอ่ะ


(รูปจากเพจ Expat wifey journey เจ้าของบทความ)

   เพื่อนของลาล่าชื่อว่า Diana ค่ะ เค้าเป็น Housemate ของลาล่าสมัยที่ลาล่าเรียนอยู่ที่ Melbourne Australia เรา 2 คน สนิทกันมากกลับจากโรงเรียนมาถึงบ้านต้องตะโกนหากันจนบางทีแฟนหนุ่ม (ณ ตอนนั้นอิจฉาที่เราเรียกหาเพื่อนก่อน 555) พูดแล้วก็คิดถึง (คิดถึงเพื่อนนะคะผู้ชายเก่าแล้วเราจะไม่คิดถึง) ตามสไตล์คนสวยและรวยมาก 555  Daina ส่งรูปถ่ายตอนที่แฟนขอแต่งงานมาให้ลาล่าดู ตอนนั้นลาล่าย้ายกลับเมืองไทยไปแล้วแต่เรายังติดต่อกันอยู่ตลอดเวลา พอลาล่าเห็นรูปถ่ายถามเค้าคำเดียวเลยค่ะว่า ที่ไหนเนี่ย ? ทำไมสวยแบบนี้ Daina บอกกลับมาว่าลาล่าเธอจะต้องมาเมืองนี้ให้ได้นะ ! มันสวยมาก สวยมากจริง ๆ (ตอนนั้นเราก็คิดในใจจะไปกับใครฟ่ะ) เพราะตอนนั้นลาล่าโสดสนิท


   หลังจากที่ได้รู้จักเมืองนี้จาก Daina ลาล่าก็เข้าไปหาข้อมูล ดูสถานที่ที่น่าไปของเมืองนั้นมาตลอด เวลาดูพวก Youtuber ชาวฝรั่งถ่าย Vlog ก็จะชอบเข้าไปดูและบอกกับตัวเองว่า ชั้นจะไปที่นี่ให้ได้ แล้วตัดภาพมา 10 ปี ให้หลังค่ะ หลังจากแต่งงานกับสามี ลาล่าเคยบอกเค้าว่าถ้าจะไป Honeymoon ขอไปที่ Santorini กับ Bora Bora นะ สามีตกใจมากเพราะเราจัดงานแต่งครั้งสุดท้ายที่เมืองไทย (เราจัดงานกัน 3 รอบ) แต่งอะไรบ่อยเกิ้น จากเมืองไทยไปมันไกลมากเลยต้องเปลี่ยนสถานที่ honeymoon กันซะงั้น เฮ้อ ! อดไปอ่ะ


(รูปจากเพจ Expat wifey journey เจ้าของบทความ)

    แต่ลาล่าก็ไม่เคยล้มเลิกความคิดทริปที่จะไป Santorini กับ Bora Bor aออกจากสมองอันน้อยนิดเลยค่ะ พอมีโอกาสเมื่อช่วง Summer ของปีที่แล้วในที่สุด ทริปในฝันก็เกิดขึ้นเมื่อคุณสามีตอบตกลงที่จะพาคุณศรีภรรยาสุดรักไปเที่ยวเมืองในฝันซะทีอิอิ แต่เลือกเอาเมืองเดียวก่อนนะ 555 รีบเก็บกระเป๋าเลยจ้าาาา แล้วเราก็เลือกที่จะไปที่นี่กันค่ะ “Santorini” งานนี้ลาล่าเป็นคนเลือกทุกอย่าง จองเองตั้งแต่ตั๋วเครื่องบิน โรงแรม Taxi (ทีเรื่องแบบนี้ล่ะถนัดนัก) ลาล่าจัดกระเป๋าเดินทางแค่คนละใบค่ะ ไม่ได้เอาอะไรไปเยอะจะมีก็แค่เสื้อผ้า ส่วนขากลับซื้อนำ้หนักเพิ่มเอา เพื่อน ๆ จัดกระเป๋าเดินทางควรมีที่ชั่งแบบพกพาด้วยมันสะดวกมาก สนใจก็ คลิกที่นี่ หรือรุ่นนี้ก็ดีค่ะ คลิกที่นี่ ลาล่ามีติดตัวไปด้วยทุกทริปไม่ต้องกังวลเรื่องนำ้หนักกระเป๋าเกินอีกเลย จะบอกว่ามีความสุขมากกับการวางแผนไปเที่ยวครั้งนี้ เรา 2 คน บินออกจากฝรั่งเศสค่ะ ไปที่กรุง Athen ก่อนค้างที่นั่น 2 คืน และเราเลือกที่จะเดินทางไปเกาะ Santorini ทางเครื่องบินค่ะ เพราะทางเรือใช้เวลาค่อนข้างนานเกินไปสำหรับทริปเรา เพื่อน ๆ สามารถเชคตั๋วเครื่องได้ที่นี่เป็นเวปไซต์ที่ลาล่าชอบมากค่ะ เค้าเทียบราคาได้ดี คลิกที่นี่ ส่วนโรงแรมลาล่าจองกันที่นี่ เวลามีปัญหาเคลียร์ได้ไม่เคยมีปัญหา คลิกที่นี่ 


  (รูปจากเพจ Expat wifey journey เจ้าของบทความ)

     ข้ามกรุง Athens ไปเลยนะคะ 555 อยากเล่าเรื่องที่เกาะในฝันแว้ว อ่ะเล่านิดนึงก็ด่ะ กรุง Athens เป็นเมืองหลวงของประเทศ Greece และถือว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของโลกด้วยนะคะ เมื่อมาถึงกรุง Athen ทุกคนจะพลาดทีเด็ดไม่ได้ต้องไปชม Acropolis ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิหาร  Parthenon อันยิ่งใหญ่อลังการ ที่นี่ถูกจัดให้เป็นเมืองมรดกโลกจากองค์กร UNESCO ด้วยนะคะ ลาล่ากับสามีเราใช้เวลา 1 วันเต็ม ๆ ในการเดินเที่ยวชมเมือง ไปตลาดซื้อของกันอย่างสนุกสนาน อากาศก็ค่อนข้างจะร้อนมาก ๆ ในช่วงเดือนกรกฎาคม สิ่งที่ต้องมีเลยคือหมวกค่ะ หาซื้อหมวกที่นั่นได้เลยน่ารัก ๆ ราคาไม่แพง สามีลาล่าซื้อมาแค่ 5 ยูโร เองค่ะ


   (รูปจากเพจ Expat wifey journey เจ้าของบทความ)

   ส่วนตั๋วเข้าชม Acropolis นั้นราคาอยู่ที่ 20 ยูโรค่ะ เพื่อน ๆ สามารถเชคอัพเดทได้ที่ คลิกที่นี่ ซื้อออนไลน์ก่อนจะไม่ต้องเสียเวลาไปต่อคิวนะ จำได้แล้ว ! ลาล่าเคยทำคลิปตอนไปเที่ยวกรุง Athen ไว้ด้วยค่ะเดี๋ยวจะเอาลิงก์มาแปะไว้ให้เพื่อน ๆ ได้ไปดูกันนะคะ



หลังจากนั้นวันรุ่งขึ้นเราก็ออกเดินทางไปเกาะ Santorini กันแล้วจ้า เรา 2 คน ตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อออกเดินทาง ใช้เวลาเดินทางโดยเครื่องบินแค่ 45 นาที เท่านั้นค่ะ เราเดินทางมากับสายการบิน Ryanair ค่ะ ถ้าเพื่อน ๆ มีเวลาและอยากชมวิวแนะนำให้ไปทางเรือเลยจ้า เรือเร็วประมาณ 4 ชั่วโมง ส่วนเรือธรรมดาก็ 8 ชั่วโมงค่ะ 

 

ตื่นเต้นมาก ๆ ที่จะได้ไปนอนแก้ผ้า เอ้ย ! นุ่ง Bikini อาบแดด เราจะใช้เวลาอยู่ที่เกาะทั้งหมด 5 คืน 6 วัน เต็มอิ่มเลย เย้ ! คืนแรกเราจะพักที่เกาะ Fira ที่พักน่ารักมากมายเพราะลาล่าเลือกเอง กว่าจะเลือกที่พักได้ยายบ่นเลยค่ะเพราะตาล้ามาก ค้นหาจนตาเหลือกเลยสวยทุกที่ สวยจนเลือกไม่ถูกเลยจริง ๆ เฮ้อ ! 


(รูปจากเพจ Expat wifey journey เจ้าของบทความ)

   แต่บอกก่อนนะคะ ถ้ามาเที่ยวช่วงตั้งแต่เดือน มิถุนายน - สิงหาคม เป็นช่วง high season ของทุกอย่างรวมถึงที่พัก ตั๋วเครื่องบินจะแพงมาก ๆ เชคกันให้ดี ๆ นะคะ (สามีลาล่าหยุดงานได้แค่ช่วงนี้เศร้าเลย) และเป็นช่วงที่คนยุโรปออกเที่ยวมากที่สุด แทบจะเหยียบกันเลยค่ะถ้าเลี่ยงได้เลี่ยงไปช่วงอื่นแทนนะคะเดือนพฤษภาคม หรือเดือนกันยายนจะดีมากค่ะ แต่ที่เกาะ Fira จะเงียบมากกว่าที่ Oia เพราะว่า Oia เค้าจะดังมากในเรื่องของการไปชม Sunset สุดแสนจะโรแมนติก มาถึงแล้วไม่รอช้าเปลี่ยนชุดเตรียมตัวถ่ายรูป 100 แอ็คกันเลยดีกว่าจ้า 555 (ณ จุดนี้สามีเอือม) ก็มันถ่ายรูปสวยทุกมุมเลยจะให้พี่ทำยังไงอิอิ


(รูปจากเพจ Expat wifey journey เจ้าของบทความ)
    
(รูปจากเพจ Expat wifey journey เจ้าของบทความ)

 สีของท้องฟ้าและน้ำทะเลตัดกับสีขาวของบ้านเรือนที่เรียงราย ลดหลั่นตามหน้าผาที่นี่ได้อย่างลงตัว ทางเดินที่เชื่อมต่อกันจากฝั่งนึงไปยังอีกฝั่งนึงทำให้เรา 2 คน มีความสุขกับการเดินชมบรรยากาศ อยากหยุดพักก็หาคาเฟ่เก๋ ๆ นั่งมองดูนักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไป ผ่านมา หลายชาติ หลากภาษา เพลินมาก ๆ ลาล่าเป็นมนุษย์ Cafe Hoping ชอบไปตามร้านกาแฟ ร้านขนม ไปนั่งเอาบรรยากาศแค่ดูคนเเดินเข้าออก เดินผ่านหน้าร้านก็มีความสุขแล้ว (สามีไม่เกทค่ะเค้างงว่ามานั่งทำไมนาน ๆ 555 สงสัยกลัวภรรยาอ้วน) แต่ถ้าเค้ามีหน้งสือดี ๆ ซักเล่มเค้าก็จะไม่บ่นเลยค่ะนางนั่งได้ทั้งวัน





   ช่วงตอนตะวันใกล้ลับฟ้า หลังจากที่เราสองคนเดินสำรวจบรรยากาศรอบ ๆ ของที่นี่ เราได้เล็งจุดชมพระอาทิตย์ตก แต่ว่าทางฝั่ง Fira จะไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ตกเหมือนทางฝั่งของ Oia นะคะ เรา 2 คนไม่ได้ซีเรียสเรื่องนี้เลยยังไงมันก็ยังสวยอยู่ดี ลาล่าเตรียมผ้าพันคอมาด้วยเพราะถึงแม้ว่าตอนกลางวันแดดจะร้อนแค่ไหน ช่วงเวลากลางคืนอากาศย่อมเปลี่ยนแปลงได้เสมอ กลางวันพกหมวกกับแว่นตา ตอนกลางคืนเปลี่ยนมาพกผ้าพันคอ (พร้อมมากพูดเลย) แล้วเราก็นั่งจู๋จี๋จนดึกเลยค่ะ 555 โอ้ย ! มีความสุขอ่ะ


(รูปจากเพจ Expat wifey journey เจ้าของบทความ)


(รูปจากเพจ Expat wifey journey เจ้าของบทความ)
 

  หลังจากที่ดื่มด่ำบรรยากาศสงบ ๆ ที่ Fira มา 2 คืนเต็มวันนี้เราเดินทางโดยมีรถของโรงแรมมารับเพิ่อที่จะไป Oia ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที พอลงจากรถก็ตื่นตะลึงกับผู้คนเลยค่ะฝั่ง Oia มีนักท่องเที่ยวเยอะมากกกกก โชคดีที่ลาล่าเลือกที่พักด้านหลังคนน้อยหน่อยแต่ต้องเดินขึ้น - ลง บันไดประมาณ 100 กว่าขั้น รองเท้าส้นสูงที่เอามาก็ผูกคอไว้เลยจ้าไม่ต้องใส่มันเลย เปลี่ยนเป็นอีแตะแทน แถมขึ้น - ลง บันไดต้องหลบอุนจิของน้องลาที่วางระเบิดไว้ทุกขั้นบันไดอีกต่างหาก โอ้ยกลิ่นก็หอม ของที่กินเข้าไปยังไม่ทันกลืนก็จะดันออกมาทางปากอีกแล้ว 555 ก็ใครมันจะไปรู้อ่ะว่าจะเป็นแบบนี้แต่ก็สนุกดีค่ะ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี (เหรอ) เรา 2 คนไม่อารมณ์เสียเพราะว่าโรงแรมที่เราจองที่นี่มีวิวหลักล้านให้ enjoy รอดตัวไป ไม่งั้นเสียชื่อการจองโรงแรมหมดอิอิ โรงแรมที่เกาะนี้มีให้เลือกหลายราคานะคะ ถ้าห้องแบบ seaview ด้วยก็จะราคาสูงนิดนึง แต่อย่างที่บอกไปค่ะ ถ้ามาพักช่วงอื่นสามารถนอนห้องที่มีอ่าง Jacuzzi ราคาสบาย ๆ เลยจ้า

Oia ถือว่าเป็นชุมชนที่มีหมู่บ้านริมทะเลตั้งอยู่บนเหนือสุดของเกาะ Santorini ที่นี่เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวต้องมาเก็บภาพโดมสีฟ้าขาว ถ้าไม่ได้เก็บภาพแบบนี้ไปเท่ากับว่ามาไม่ถึงเมืองนี้กันเลยทีเดียว มันคือ signature ของที่นี่ก็ว่าได้ กว่าลาล่าจะเบียดตัวเข้าไปถ่ายรูปแต่ละที คุณสามีงอนแล้วงอนอีก งอนจนตัวงอเลยค่ะกดไป 100 รูป ใช้ได้ 2 รูป ก็เอาวะ 555 ห้ามบ่นเดี๋ยวไม่ถ่ายให้ เฮ้อ ! ไว้ไปง้อเอาคืนนี้ละกันนะ คิคิ




(รูปจากเพจ Expat wifey journey เจ้าของบทความ)

  บอกเลยค่ะว่าลาล่าไม่ใช่ big fan ของ Oia เลย ทุกอย่างบรรยากาศ ร้านค้า ร้านอาหาร ดีมาก แต่ช่วงที่ไปคนเยอะมาก เดินเบียดกันเหมือนตลาดนัดจตุจักรบ้านเราอย่างนั้นเลยค่ะ จะกินอะไรก็ต้องต่อคิว จะถ่ายรูปจุดสวย ๆ ยิ่งจุดชมพระอาทิตย์ตกอันเลื่องลือคนต้องจองคิวกันตั้งแต่บ่าย 4 โมงจ้าอะไรจะขนาดนั้น เราไม่มีเวลานั่งชิว ๆ enjoy อะไรเลยเพราะคนมหาศาลมาก นึกว่าพี่เบิร์ด ธงชัยมาเปิดคอนเสิร์ต (รุ่นไหนรู้เลยอ่ะ) ต้องทำใจค่ะช่วง holiday ก็เป็นแบบนี้ บ่นไปแบบนั้นแหล่ะยังไงก็สนุกแบบคนเยอะ ๆ อยู่ดีได้อรรถรสไปอีกแบบนึง นี่แหล่ะรสชาดของ


(รูปจากเพจ Expat wifey journey  เจ้าของบทความ)

   (รูปจากเพจ Expat wifey journey เจ้าของบทความ)

   Oia คือสวรรค์ของนักเดินทาง ทุกคนที่ชอบความโรแมนติกมักจะมากันที่นี่ ลาล่าเห็นคนมาถ่ายพรีเวดดิ้งที่นี่หลายคู่เลยค่ะ และคนส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวก็มาเป็นคู่ ๆ ตอกย้ำความโรแมนติกให้เมืองนี้เข้าไปอีก พอมาเห็นกับตาตัวเองก็เข้าใจอย่างถ่องแท้เลยว่าทำไมนักท่องเที่ยวถึงชอบมาที่นี่กันขนาดนี้ แหม กระหนุงกระหนิงน่ารักเชียวแต่ละคู่ ตกค่ำเราก็พลอดรักกันใต้แสงดาวพร้อมแสงสว่างจากหลอดไฟที่ลดหลั่นตามขั้นบันไดของบ้านเรือนที่นี่ ไม่มีอะไรอีกแล้วที่จะหยุดความโรแมนติกของเกาะนี้ได้จริง ๆ รู้สึกโชคดีมาก ๆ ที่ในที่สุดก็ได้มาเที่ยวที่นี่เหมือนที่เราเคยฝันไว้ จนทริปนี้รู้ซึ้งเลยว่าทำไม Santorini ถึงขโมยหัวใจนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมา

(รูปจากเพจ Expat wifey journey เจ้าของบทความ)

   เมืองในฝันของลาล่า เพื่อน ๆ ว่าเป็นยังไงกันบ้างคอมเมนท์มาคุยกันได้นะคะ คือลาล่าเล่ามาแบบย่อ ๆ นะเนี่ยจริง ๆ มีเรื่องอีกเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการไปอาบแดดที่ Red Beach ที่เรา 2 คนเช่ารถขับไปเอง โรงแรมสุดท้ายที่เราไปพักคือสวยมาก อยู่บนหน้าผาเลยค่ะ เอาเป็นว่าพอแค่นี้ก่อนดีกว่า ไว้มีเวลาเยอะกว่านี้จะมาเล่าให้ฟังต่ออิอิ เพราะว่าที่เกาะแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยว และกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมายให้เลือกทำ อ้อ ! ลืมบอกไป มีอีกอย่างที่ลาล่าหลงรักด้วยก็คือ Greek Food ค่ะ มันสุดยอดมาก ๆ อร่อยมาก ๆ อร่อยทุกอย่าง อาหารทะเลก็สด กุ้ง หมึก ปลา โอ้ว ! จากที่ปั้นหุ่นมาเที่ยวทริปนี้โดยเฉพาะ จบทริปนี้ตานหยูดกันเลยทีเดียว (ผวนเองนะคะ 555) ต้องกลับไปโยคะเบิร์นไขมันกันต่อแล้ว ไปก่อนนะคะ ต้องไปสอนโยคะต่อเพื่อหาเงินไปเที่ยวทริปต่อไปค่ะอิอิ เพื่อน ๆ อย่าลืมตามมาเที่ยวที่นี่กันนะคะ ส่วนใครสนใจเรียนโยคะแบบส่วนตัวติดต่อมาที่

Line : คลิกที่นี่


ฝากเพื่อน ๆ ติดตามผลงานของลาล่าได้ที่


YouTube : คลิกที่นี่ Yoga with LaLa Chanel

Facebook : คลิกที่นี่ Yoga with LaLa Page

Facebook : Expat wifey journey

Instagram : คลิกที่นี่ Yoga.withlala IG

Tiktok : คลิกที่นี่ @yogawithlala Tiktok


แล้วพบกันใหม่นะคะ 



Writer

YogawithLaLa             

         

••• LaLa •••


ประสบการณ์ : E - RYT 500 สอนโยคะทั้งในและต่างประเทศ

รักการท่องเที่ยว หลงเสน่ห์การเดินทาง

ชอบการแบ่งปันและแชร์ประสบการณ์ต่าง ๆ จากการส่องโลก

มากว่า 28 ประเทศ




    


  

   



Comments

  1. น่าไปเที่ยวจังเลยอ่า ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ

    ReplyDelete
  2. เล่าเรื่องสนุกมากเลย

    ReplyDelete

Post a Comment

Popular posts from this blog

สูตรลับ น้ำสลัดจากฝรั่งเศส

ประโยชน์ของการฝึกโยคะในท่าไหว้พระอาทิตย์

จากเมืองไทยไปสหรัฐอเมริกา Makeup Artist & Hair Stylist one and the only